โรคติดเชื้อและมะเร็ง ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

เมื่อพูดถึงวัคซีน หลายคนนึกถึงภาพสมัยวัยเด็กที่ร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นเข็มฉีดยา และคิดว่าผู้ใหญ่แข็งแรงไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด วันนี้หมอจึงมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อและมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีนกัน


1. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)


การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พบได้ตลอดทั้งปีและทุกกลุ่มอายุ ติดต่อโดยไอจามรดใส่กัน และสัมผัสสิ่งของปนเปื้อนเชื้อไข้หวัดใหญ่ อาการแสดงคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เพลียมาก น้ำมูกใส ไอแห้ง เจ็บคอ แต่อาการจะเป็นรุนแรง หายใจล้มเหลว ถึงขั้นเสียชีวิตได้ในบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต โรคเลือด และได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว, บุคลากรทางการแพทย์, ผู้ที่พักอยู่ในบ้านเดียวกับคนที่เสี่ยง และผู้ที่ต้องการได้รับวัคซีน โดยฉีดวัคซีนปีละ 1 ครั้ง ก่อนเข้าฤดูฝน (ประมาณเดือน พ.ค.) เพราะเป็นช่วงที่ระบาดมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่สามารถป้องกันไข้หวัดธรรมดาได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อหวัดและไข้หวัดใหญ่คือ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ล้างมือบ่อย ๆ หลังสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่นน้ำมูก หรือเสมหะ และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อเริ่มมีหวัดหรือเวลาใกล้ชิดกับผู้ป่วย


2. โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส


เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae ก่อให้เกิดโรคหูน้ำหนวก ไซนัสอักเสบ และสามารถเกิดอาการ รุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ และติดเชื้อในกระแสเลือดได้ กลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็ก, ผู้สูงอายุ, ผู้ไม่มีม้าม,ผู้มีโรคประจำตัวเรื้อ รังเช่น เบาหวาน หัวใจวาย ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ตับแข็ง ติดบุหรี่ และมีการรั่วของน้ำไขสันหลัง ดังนั้นจึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนนิวโมคอคคัสในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว และบุคคลที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการรุนแรงจากการติดเชื้อนิวโมคอคคัสนี้ ปัจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนชนิดคอนจูเกต 13 สายพันธุ์ ซึ่งฉีดเพียง 1 เข็มก็สามารถป้องกันการเกิดนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรงได้ โดยยังไม่มีรายงานว่าต้องฉีดกระตุ้นซ้ำอีก


3.โรคบาดทะยัก-คอ ตีบ-ไอกรน


เป็นอีก 3 โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่สามารถเจอได้ในสิ่งแวดล้อม เชื้อบาดทะยักเข้าทางบาดแผลที่ผิวหนังและเข้าไปทำลายเส้นประสาทและสมอง เกิดอาการแข็งเกร็งกระตุกเป็นพักๆ, โรคคอตีบจะมีอาการเจ็บคอ แผ่นฝ้าขาวในคอ คอบวมทำให้หายใจลำบาก อุดกั้นทางเดินหายใจได้ และโรคไอกรนในผู้ใหญ่พบน้อยกว่าในเด็ก แสดงอาการคือ ไอแรงเป็นชุด ๆ นานติดต่อกัน 3 เดือน (หรือที่เรียกว่า ไอร้อยวัน) โรคทั้ง 3 โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งถึงแม้เคยฉีดวัคซีนทั้ง 3 ชนิดตอนเป็นทารกแรกเกิดก็ตาม แต่เมื่อโตขึ้นภูมิต้านทานลดลง ดังนั้นสำหรับผู้ใหญ่แนะนำให้ฉีดวัคซีนบาดทะยักและคอตีบเป็นประจำทุก 10 ปี และฉีดวัคซีนไอกรนกระตุ้นซ้ำอีก 1 ครั้งเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น


4. ไวรัสเอชพีวี (Human papilloma virus)


ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ไวรัสชนิดนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรูทวารเพศชาย และหูดที่อวัยวะเพศ โดยมะเร็งปากมดลูกพบบ่อยเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้หญิงซึ่งเฉลี่ยแล้วมีผู้ป่วยรายใหม่วันละ 17 ราย ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและหูดได้ ซึ่งฉีดให้วัยรุ่นหญิงและชายก่อนมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุ 11-26 ปี ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม ถึงแม้มีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถรับวัคซีนได้ แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะลดลง แต่อย่างไรก็ตามหญิงที่อายุมากกว่า 35 ปี หรือมีเพศสัมพันธ์แล้วยังคงต้องตรวจภายในเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ถึงแม้ว่าเคยรับวัคซีนป้องกันเอชพีวีก็ตาม


นอกจากนี้ยังมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้ออีกหลายชนิดที่ไม่ได้กล่าวถึง เช่น หัดเยอรมัน คางทูม ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ ซึ่งมีความจำเป็นเช่นกัน หมอจะมาเล่าให้ฟังในคราวต่อไป สุดท้ายนี้ขอเชิญชวนให้ฉีดวัคซีนให้ตัวคุณเองและคนที่คุณรัก เพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนที่จะเป็นโรคกันนะคะ


พญ.สมรรจน์ ลิ้มมหาคุณ


อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ

Visitors: 106,566