วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B

เชื้อไวรัสตับอักเสบ B สามารถทำให้เกิดโรคที่ร้ายแรงแก่ผู้ได้รับเชื้อดังต่อไปนี้

  • ระยะเฉียบพลัน [ Acute ] อาจทำให้เกิดตับอักเสบ  เบื่ออาหาร ท้องร่วงและอาเจียน อ่อนเพลียไม่มีแรง ตัวเหลืองตาเหลือง ปวดกระเพาะปวดกล้ามเนื้อและข้อ

  • ระยะเรื้อรัง [Chronic ] อาจทำให้เกิดตับแข็ง มะเร็งตับ เสียชีวิต วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B สามารถป้องกันตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบชนิด B


ไวรัสตับอักเสบ B แพร่กระจายได้อย่างไร


 ไวรัสตับอักเสบสามารถติดต่อโดย จากแม่ไปลูกขณะคลอด มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ถูกเข็มตำ ใช้เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกันเช่นมีดโกนหนวด แปรงสีฟัน ผู้ป่วย 1/3 ไม่สามารถหาสาเหตุว่าเกิดการติดเชื้อจากไหน


บุคคลใดบ้างที่ต้องได้รับวัคซีน 

  • ใช้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบ บี สำหรับคนทุกกลุ่มอายุ

  • ใช้สำหรับฉีดสร้างภูมิในกลุ่มคนที่มีอัตราการติดเชื้อสูง เช่น แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ พยาบาล

  • ใช้กระตุ้นให้เกิดภูมิในกลุ่มที่มีโอกาสติดเชื้อสูง เช่นผู้ป่วยโรคไตที่ต้องฟอกเลือด ผู้ที่ต้องได้รับการถ่ายเลือดบ่อย

ดังนั้นเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนที่ไม่มีหลักฐานของการติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนมาก่อนควรจะได้รับวัคซีนนี้

ไม่แนะนำให้ตรวจหาภูมิหลังจากการได้วัคซีนครบ[anti-HBs antibody] และไม่แนะนำให้ฉีดกระตุ้นซ้ำหลังได้วัคซีนครบแม้ว่าจะตรวจพบระดับภูมิต่ำลง


แนวทางปฏิบัติสำหรับกลุ่มเสี่ยง

คือคนมี่ไม่มีภูมิ ไม่เคยได้วัคซีนมาก่อน สัมผัสทางเพศหรือเลือดที่มี HBsAg หรือ HBeAg เป็นบวกแนะนำให้ hepatitis immune globuline ร่วมกับวัคซีน


บุคคลใดไม่ควรให้วัคซีน

  • แพ้ yeast

  • แพ้วัคซีน

  • ยังไม่หายจากการป่วยเฉียบพลัน

  • บุคคลที่ตั้งครรภ์

  • บุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

วัคซีนนี้ทำให้เกิดอาการแพ้อย่างไรบ้าง

ส่วนใหญ่ไม่เกิดอาการแพ้ อาจจะเกิดอาการแสบคอหรือมีไข้ซึ่งจะหายไป1-2วันหลังฉีด อาการแพ้อย่างรุนแรงอาจพบมีไข้สูง สับสน หายใจลำบากมีเสียงดังหวีด หัวใจเต้นเร็วถ้าหากเกิดอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์


จะให้วัคซีนอย่างไร

ตารางการให้วัคซีน

ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อ

ไวรัสตับอักเสบB

ทารกที่เกิดจากแม่ไม่ติดเชื้อ

ไวรัสตับอักเสบB

เด็กโตหรือผู้ใหญ่

เข็มแรก

ภายใน12ชั่วโมงหลังคลอด

ร่วมกับhepatitis B immune globulin

ตั้งแต่เกิดจนถึง2เดือน

เมื่อไรก็ได้

เข็มที่สอง

อายุ1-2เดือน

1เดือนหลังเข็มแรก

1เดือนหลังเข็มแรก

เข็มที่สาม

อายุ6เดือน

6เดือนหลังเข็มแรก

6เดือนหลังเข็มแรก

ถ้าลืมฉีดให้รีบฉีดทันที่โดยไม่ต้องเริ่มใหม่

ปฏิกิริยาระหว่ายา

ผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ควรจะได้รับปริมาณวัคซีนมากกว่าคนปกติเพื่อให้มีปริมาณมากพอที่จะกระตุ้นให้เกิดภูมิ โดยอาจจะต้องได้รับเพิ่มอีกหนึ่งเข็มเอนที่สองหลังจากเข็มแรก

ภูมิจะป้องกันโรคได้เมื่อไร และอยู่ได้นานแค่ไหน

หลังจากฉีดเข้ากล้าม 2 สัปดาห์จะตรวจพบภูมิคุ้มกันในกระแสเลือด และจะคงอยู่ได้นานอย่างน้อย 3 ปี ดังนั้นวัคซีนนี้จะป้องกันโรคได้หลังฉีด 10 วัน

 Recombinant DNA Hepatitis B vaccine

เป็นวัคซีนที่เตรียมได้จากการที่ตัดเอา DNA ที่ควบคุมการสร้างเฉพาะส่วนผิวของเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี แล้วนำ DNA ดังกล่าวใส่ในเชื้อแบคทีเรีย หรือยีสต์เพื่อให้เซลล์แบ่งตัว หลังจากนั้นจึงต่อเอา HBsAg ที่บริสุทธิ์ออกมาเป็นวัคซีน

ข้อบ่งชี้ในการใช้ยา

  1. ใช้ฉีดในบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้แก่

  • บุคคลากรทางการแพทย์ทุกสาขาได้แก่ แพทย์ พยาบาล ทันต์แพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ

  • เด็กแรกเกิดที่พบเชื้อ HBsAg ในเลือด

  • ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการถ่ายเลือดบ่อยๆ

  • ผู้ที่ใกล้ชิดกับคนที่มีเชื้อ HBsAg อยู่ในเลือดอยู่ตลอดเวลา

  • ผู้ที่เสี่ยงต่อโรคเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางพฤติกรรมทางเพศ เช่นโสเภณี รักร่วมเพศ

  • ผู้ที่ติดยาเสพติดชนิดฉีด

  • ผู้ที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีความชุกชุมของโรคสูง

  1. ใช้ฉีดเพื่อกระตุ้นซ้ำภายหลังจากได้รับวัคซีนฉีดครบตามกำหนด

  2. ใช้ฉีดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับและไวรัสตับอักเสบ ดี

ขนาดและวิธีใช้

แสดงขนาดและเวลาในการฉีดวัคซีน Engeric-B
 ครั้งแรกเดือนที่1เดือนที่2เดือนที่6เดือนที่12กระตุ้นซ้ำหลัง2-3 ปี
แรกเกิด-10ปี1 เข็ม1 เข็ม-1 เข็ม-1 เข็ม
เด็กโตและผู้ใหญ่1 เข็ม1 เข็ม-1 เข็ม-1 เข็ม
ต้องการภูมิอย่างเร่งด่วน1 เข็ม1 เข็ม1 เข็ม-1 เข็ม-
แสดงขนาดเวลาในการฉีด H-B vax2
 ครั้งแรกเดือน1เดือน6กระตุ้นหลังเข็มสุดท้าย
แรกเกิด-10ปี0.5 ซซ.0.5 ซซ.0.5 ซซ.ไม่ได้ระบุ
เด็กโต-ผู้ใหญ่1 ซซ.1 ซซ.1 ซซ.ไม่ได้ระบุ

ข้อควรระวังและข้อห้ามใช้

  1. ไม่ควรฉีดในรายที่ไวต่อส่วนประกอบของวัคซีน เช่นแพ้ยีสต์
  2. ควรจะเลื่อนการฉีดในกรณีที่มีไข้สูง
  3. ไม่ควรฉีดในหญิงมีครรภ์
  4. ผู้ที่ได้รับการติดเชื้อมาก่อน การฉีดวัคซีนจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี
  5. ผู้ที่เป็นโรคไตหรือภูมิไม่ดี ภูมิที่สร้างอาจจะสูงไม่พอ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่ม
  6. ควรเตรียมยา adrenalin เพื่อผู้ป่วยแพ้วัคซีน

ผลข้างเคียงของยา

เหมือนกับการฉีดวัคซีนชนิดอื่นคือมีอาการ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดซึ่งมีอาการไม่มากและหายเองได้ใน 2-5 วัน

ปฏิกิริยาระหว่างยา

สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ และฉีดร่วมกับภูมิ Heppatitis B immunoglobulin ได้แต่ต้องฉีดคนละข้าง


บทความจากSiamhealth

Visitors: 106,952